Bid Ask และสเปรดคืออะไร?

คุณต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไรในการซื้อขายฟอเร็กซ์? สเปรดคือวิธีการทั่วไปที่โบรกเกอร์ใช้ในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขายจากเทรดเดอร์ในตลาดสกุลเงิน เดี๋ยวเราจะอธิบายให้ฟังว่าสเปรดนั้นทำงานอย่างไร

สเปรดคืออะไร?

สเปรดเป็นแนวคิดที่เป็นธรรมเนียมของตลาดการเงิน มันจะแสดงความแตกต่างระหว่างราคาต่ำสุดที่ผู้ขายยินดีขายสินทรัพย์กับราคาสูงสุดที่ผู้ซื้อยินดีจ่ายให้กับสินทรัพย์นี้

คุณเองก็เคยมีประสบพบเจอกับค่าสเปรดมาแล้วในตอนที่คุณไปธนาคารหรือสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตราเพื่อแลกสกุลเงินต่างประเทศ ธนาคารจะแสดงราคาของสกุลเงินเป็นสองราคาเสมอ ได้แก่ ราคาที่ตกลงจะซื้อจากคุณและราคาที่พร้อมจะขายให้คุณ สเปรดระหว่างราคาทั้งสองนี้จะเป็นรายได้ของธนาคารที่มาจากการดำเนินการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศให้คุณ

ทุกสินทรัพย์ต่างก็มีราคา Bid และ Ask เมื่อคุณซื้อสินทรัพย์ FBS จะเปิดคำสั่งซื้อของคุณที่ราคา Ask และในทางกลับกัน เมื่อคุณขายสินทรัพย์ FBS จะเปิดคำสั่งซื้อของคุณที่ราคา Bid สเปรดของราคา Bid-Ask ในตลาดฟอเร็กซ์จะเป็นค่าธรรมเนียมของการเปิดคำสั่งซื้อ สเปรดที่แคบลงจะหมายถึงเงื่อนไขที่ดีกว่าสำหรับเทรดเดอร์

สเปรด Bid-Ask ทำงานอย่างไร?

ในตลาดการเงินมีสองฝ่ายที่อยู่คู่กัน ได้แก่ ผู้ซื้อและผู้ขาย ผู้ซื้อต้องการซื้อสินทรัพย์ในราคาต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ส่วนผู้ขายก็ต้องการขายสินทรัพย์ในราคาที่สูงที่สุด ทั้งสองฝ่ายนี้จะสร้างราคาซื้อที่เรียกว่า Bid และราคาขายที่เรียกว่า Ask

สเปรดคือความแตกต่างระหว่างราคา Bid และ Ask ดังนั้นสูตรคำนวณของค่าสเปรด Bid-Ask จึงมีลักษณะดังนี้: Ask - Bid = Spread

สรุป:

• ราคาที่เราจ่ายเพื่อซื้อคู่สกุลเงินจะถูกเรียกว่า Ask ซึ่งมักจะสูงกว่าราคาตลาดเล็กน้อย
• ราคา ที่เราขายคู่สกุลเงินในตลาดฟอเร็กซ์จะถูกเรียกว่าBid ซึ่งมักจะต่ำกว่าราคาตลาดเล็กน้อย
• ราคาที่เราเห็นบนกราฟนั้นจะเป็นราคา Bid เสมอ
• ราคา Ask จะสูงกว่าราคา Bid เพียงไม่กี่สิบ pip เสมอ
• สเปรด คือความแตกต่างระหว่างสองราคานี้

SPREAD = ASK – BID

ตัวอย่างเช่น ราคา Bid/Ask ของอัตราแลกเปลี่ยนของคู่เงิน EUR/USD คือ 1.12502/1.12506 คุณจะซื้อคู่เงินที่ราคา Ask ซึ่งสูงกว่า 1.12506 แล้วขายที่ราคา Bid ซึ่งต่ำกว่า 1.12502 ค่าสเปรดของคู่เงินนี้จึงเท่ากับ 4 จุด

ประเภทของสเปรด

ประเภทของสเปรดจะขึ้นอยู่กับนโยบายของโบรกเกอร์ สเปรดอาจเป็นแบบคงที่หรือลอยตัว

สเปรดแบบคงที่

สเปรดแบบคงที่จะมีค่าเท่าเดิมไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร ณ เวลาใด ๆ ก็ตาม ด้วยวิธีนี้ คุณจะรู้ว่าคุณจะต้องจ่ายเท่าไรสำหรับหนึ่งคำสั่งซื้อขาย ข้อดีอีกอย่างคือโบรกเกอร์จะไม่สามารถทำให้สเปรดกว้างขึ้นได้ แม้ว่าสภาวะตลาดจะเปลี่ยนไปก็ตาม

สเปรดแบบลอยตัว

ในทางกลับกัน สเปรดแบบลอยตัวหรือแปรผันนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สเปรดจะกว้างขึ้นหรือแคบลงตามอุปสงค์และอุปทานของสกุลเงินและความผันผวนของตลาดโดยรวม สเปรดแบบลอยตัวมักจะกว้างขึ้นในช่วงที่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญและวันหยุดธนาคารซึ่งเป็นช่วงที่สภาพคล่องของตลาดลดลง อย่างไรก็ตาม พอตลาดสงบลง สเปรดแบบลอยตัวอาจแคบกว่าสเปรดแบบคงที่ได้

วิธีการเลือกสเปรดที่เหมาะสม

สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้คือการมองหาโบรกเกอร์ที่มีค่าสเปรดต่ำ ๆ เนื่องจากมันเป็นค่าธรรมเนียมหลัก ๆ ที่คุณจะต้องจ่ายสำหรับกิจกรรมการซื้อขายของคุณ FBS เสนอค่าสเปรดที่คุณต้องตะลึงสำหรับคู่สกุลเงินยอดนิยม ทำให้คุณสามารถเทรดได้อย่างไร้กังวล

ประเภทของสเปรดที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับความชอบของคุณในฐานะเทรดเดอร์ โดยทั่วไปแล้ว เทรดเดอร์ที่มีบัญชีขนาดเล็กแถมยังไม่ได้เทรดบ่อยสักเท่าไรก็จะได้รับประโยชน์จากการกำหนดค่าสเปรดแบบคงที่ เทรดเดอร์ที่มีบัญชีขนาดใหญ่ที่มักจะเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดคึกคัก (ตอนที่ค่าสเปรดแคบที่สุด) และต้องการส่งคำสั่งอย่างรวดเร็วก็จะได้รับประโยชน์จากค่าสเปรดแบบแปรผัน

การคำนวณต้ทุน

โปรดทราบว่าต้นทุนค่าสเปรดในตลาดฟอเร็กซ์นั้นต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในตลาดหุ้นหรือตลาดออปชั่น เนื่องจากสเปรดจะแสดงราคาเป็นจุด เทรดเดอร์จึงสามารถคำนวณต้นทุนของทุกคำสั่งซื้อขายได้อย่างง่ายดายโดยการคูณค่าสเปรดกับมูลค่าของ 1 จุด

สเปรดเป็นตัวแปรสำคัญที่ต้องพิจารณาในตอนที่คุณเลือกโบรกเกอร์ แต่คุณต้องแน่ใจว่าคุณพอใจกับค่าสเปรดที่นำเสนอมา คุณสามารถทดสอบเงื่อนไขการซื้อขายของบริษัทได้ตลอดเวลาโดยการเปิดบัญชีทดลองซึ่งไม่ต้องลงทุนด้วยเงินของคุณเองเลย

ยิ่งระยะเวลาการเทรดของคุณสั้นลงเท่าไร ขนาดของสเปรดก็จะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น หากคุณถือสถานะเปิดไว้เป็นเวลาหลายนาทีและกำไรของคุณคือ 1 pip ส่วนค่าสเปรด 0.3 pip นั้นหมายถึงการจ่าย 30% ของกำไรของคุณสำหรับการส่งคำสั่งซื้อขายนี้ หากคุณเปิดคำสั่งซื้อขายไว้หนึ่งวัน ก็มีแนวโน้มว่าราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น สมมติว่าคุณได้กำไร 100 จุด ในกรณีนี้ คุณจะจ่ายค่าสเปรดเพียง 3% ของกำไรของคุณ

คู่สกุลเงินที่เป็นที่นิยมมากกว่าก็จะมีค่าสเปรดที่ต่ำกว่า ตัวอย่างเช่น ค่าสเปรดสำหรับการซื้อขาย EUR/USD มักจะต่ำมาก ๆ หรืออย่างที่เทรดเดอร์มักจะพูดติดปากกันว่า แคบ

วิธีการตรวจสอบค่าสเปรดใน MetaTrader

เมื่อคุณคลิกที่ปุ่ม New Order หน้าต่างก็จะปรากฏขึ้นเพื่อให้คุณกำหนดรายละเอียดของคำสั่งซื้อขายของคุณ แถมหน้าต่างนี้ยังแสดงราคา Bid และ Ask ปัจจุบันด้วย

หากต้องการเพิ่มเส้นราคา Bid และ Ask ลงในกราฟของคุณ ให้คลิกขวาตรงไหนก็ได้บนกราฟของคุณแล้วเลือก Properties จากนั้นให้คลิกที่แท็บ Show และทำเครื่องหมายที่กล่อง "Show ask price line" และ "Show bid price line" คลิกที่ปุ่ม OK จากนั้นเส้นจะปรากฏในกรอบเวลาที่สั้นลง (ในกรอบเวลาที่ยาวกว่า เส้นราคา Bid จะทับเส้นราคา Ask)

หากคุณยังไม่เห็นเส้น Ask ให้ตรวจสอบดูว่าเส้นนั้นมีสีที่ถูกต้องหรือไม่ กลับไปที่ Properties ของคุณแล้วตรวจสอบสีของเส้น

นอกจากนี้ คุณยังสามารถดูราคา Bid/Ask แบบเรียลไทม์ของตราสารการซื้อขายที่มีอยู่ทั้งหมดได้ โดยการคลิกที่ View จากนั้นเลือก Market Watch

สิ่งที่ส่งผลต่อขนาดของสเปรดมีอะไรบ้าง?

บางครั้ง สเปรดแบบลอยตัวอาจกว้างมากเนื่องจากความผันผวนของตลาด เช่น การประกาศทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ข่าวสาร หรือสิ่งที่เรียกว่า หงส์ดำ (Black Swan) (เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและทรงพลังอย่างยิ่งที่อาจก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง) แต่พอเวลาผ่านไป สเปรดก็มีแนวโน้มที่จะกลับสู่สภาวะปกติ

ตราสารแปลกใหม่อาจมีค่าสเปรดสูงเช่นกัน ตัวอย่างเช่น USDTRY (ดอลลาร์สหรัฐเทียบกับลีราตุรกี) เป็นตราสารแปลกใหม่ที่มีค่าสเปรดสูงกว่าปกติ

ท้ายที่สุด สเปรดจะกว้างขึ้นเมื่อสภาพคล่องในตลาดมีน้อยลงเนื่องจากวันหยุดธนาคาร

สรุป

สเปรดคือค่าธรรมเนียมที่เทรดเดอร์จ่ายให้กับโบรกเกอร์ของตนเพื่อโอกาสในการซื้อขายในตลาดสกุลเงิน มันแสดงถึงความแตกต่างของราคาที่เทรดเดอร์ซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง

สเปรดสามารถเป็นได้ทั้งแบบคงที่หรือลอยตัว ส่วนประเภทของสเปรดที่ดีที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของเทรดเดอร์เอง หากคุณซื้อขายบ่อย ๆ คุณคงจะชอบสเปรดแคบ ๆ แนะนำให้เลือกโบรกเกอร์ที่มีค่าสเปรดต่ำ ๆ เพื่อลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายและเพิ่มผลลัพธ์ให้สูงที่สุด

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ควรทราบก็คือสเปรดมักจะถูกแสดงราคาเป็นจุด ซึ่งเป็นหน่วยการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดฟอเร็กซ์ เทรดเดอร์จะต้องเข้าใจแนวคิดของสเปรดและประเภทต่าง ๆ ของสเปรดที่โบรกเกอร์นำเสนอเพื่อให้สามารถเทรดได้อย่างรอบคอบและจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ